วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ ถูกใจ สำหรับคอนโดฯ ตอน2

ตอนนี้ตลาดคอนโดฯ กำลังบูม เชื่อว่าหนุ่มสาววัยทำงานหลายคนคงกำลังมองหาหรือเลือกจับจองคอนโดฯ ทำเลดีๆ ราคาตรงใจกันอยู่แน่ วันนี้ จึงมีไอเดียดีๆ ในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งคอนโดฯ มาฝากคุณผู้อ่านกัน


เฟอร์นิเจอร์


ถ้าพูดถึงการเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งคอนโดฯ…”ขนาดของพื้นที่” นับเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรคำนึงในการออกแบบตกแต่งห้อง แต่ไม่ว่าเราจะมีพื้นที่ห้องจำกัดขนาดไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตกแห่งให้ออกมาสวยดังใจแน่นอน เพียงแต่เราต้องรู้จักวางแผนการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อการตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ได้ลงตัวที่สุด

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไอเดียดีๆ ในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งคอนโดมิเนียม

เฟอร์นิเจอร์



สิ่งจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับห้องคอนโดฯ ขนาดพื้นที่ 22.5 ตร.ม. มีดังต่อไปนี้ค่ะ


"ขนาดของพื้นที่กับเฟอร์นิเจอร์" นับเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรคำนึงในการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องค่ะ แต่ไม่ว่าเราจะมีพื้นที่ห้องจำกัดขนาดไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตกแห่งให้ออกมาสวยดังใจแน่นอน เพียงแต่เราต้องรู้จักวางแผนการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ไม่ยากอย่างที่คิด

เฟอร์นิเจอร์




โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ดาวเด่นในบ้าน ที่ทุกคนใช้เป็นที่นั่งคุย เป็นที่รับแขก หรือเป็นมุมดูหนังสุดโปรด ด้วยเหตุนี้เฟอร์นิเจอร์โซฟาจึงเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นในบ้านที่เป็นแหล่งรวมความสกปรก ทั้งเศษขนม และคราบสกปรกต่าง ๆ เพราะฉะนั้นก็ถึงเวลาที่ต้องทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โซฟากันบ้างแล้วล่ะ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์โซฟาผ้า ที่ดูจะทำความสะอาดยาก

 วิธีทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ประเภทโซฟาผ้า

           1. สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทโซฟาชนิดผ้าที่ถอดซักทำความสะอาดได้ ขั้นแรกก็ถอดปลอกหมอนและปลอกเฟอร์นิเจอร์โซฟาไปซักทำความสะอาดก่อน โดยหลีกเลี่ยงการซักด้วยเครื่องเเพราะฉะนั้นซักด้วยมือจะปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์โซฟาที่ถอดทำความสะอาดไม่ได้ ก็ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น ทำความสะอาดฝุ่นและเศษขนมต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บนเฟอร์นิเจอร์โซฟา

           2. บริเวณที่ไม่มีผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ เช่น บริเวณขาโต๊ะ หรือบริเวณโครงเฟอร์นิเจอร์โซฟา ก็ทำความความสะอาดง่าย ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาด แล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว 

           3. เฟอร์นิเจอร์โซฟาที่มีหมอนอิงก็ควรจะทำความสะอาดด้วยเช่นกัน โดยเริ่มจากการถอดปลอกหมอนออกไปซักก่อน เสร็จแล้วให้นำหมอนมาแช่ลงในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดจนหมอนชุ่มน้ำยา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นเทน้ำยาออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด พร้อม ๆ กับใช้มือกดหมอนเพื่อบีบน้ำยาออกจากหมอนให้หมด ค่ะ

           4. คราวนี้ก็ถึงตาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โซฟาชิ้นใหญ่ โดยผสมน้ำเย็นและน้ำอุ่นอย่างละครึ่ง กับน้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โซฟาโดยเฉพาะ หรืออาจจะใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะรถยนต์ก็ได้เช่นกัน ปริมาณที่ใช้ก็ตามฉลากที่บอกไว้ ค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำยาพอหมาด อย่าให้ชุ่มมาก 


            คราบสกปรกจากผ้าจะได้ไม่ตกค้างบนเฟอร์นิเจอร์โซฟาอีก จากนั้นให้ใช้ผ้าแห้งซับความชื้นในเฟอร์นิเจอร์โซฟาอีกครั้ง จนแน่ใจว่าโซฟาเริ่มแห้ง และถ้าเป็นไปได้ก็ควรนำโซฟาไปตากแดดจัด ๆ 


ขอบคุณข้อมูลจาก http://home.kapook.com/view61190.html

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นวดบำบัดด้วยหินร้อนจากภูเขาไฟ



วิธีทำทุเรียนทอด

ทุเรียน



สำหรับผลิตภัณฑ์ทุเรียนทอดนั้น เป็นอาหารขบเคี้ยวประเภทของว่าง ที่อุดมด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเรท และวิตามินที่มีคุณค่าแก่ร่างกาย ที่สามารถทอแทนของคบคี้ยวหรืออาหารขยะที่วางขายในซูเปอร์มาร์เกต หรือร้านค้าทั่วไปที่เด็กหรือผู้ใหญ่ชอบบริโภคกัน โดยปัจจุบันทุเรียนทอดสามารถเก็บบริโภคถึง 90 วัน โดยไม่ใส่สารกันบูด ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และทุเรียนทอดกรอบนี้จะเด่นตรงที่มีรสชาติ หวาน เค็ม มันและหอด้วยกลิ่นเฉพาะตัว อร่อยติดใจเมื่อได้ลิ้มลอง

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการเลือกซื้อทุเรียน

เทคนิคการเลือกซื้อทึเรียน





ทุเรียน  จัดเป็นผลไม้ที่มีสีสันของภาคตะวันออกในช่วงฤดูร้อน ทำรายได้ปีละกว่าร้อยล้านบาท   โดยผลผลิตจะออกมาในช่วงเดือน เมษายน - พฤษภาคม  มีหลายพันธุ์ให้เลือก  ตั้งแต่พันธุ์หมอนทอง  ชะนี  ก้านยาว  และกระดุมทอง   ซึ่งจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงนัก  รสชาติอร่อย

       นอกจากจะมีทุเรียนใหม่ สดแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปทุเรียนต่างๆด้วย  เช่น  ทุเรียนทอดกรอบ  ทุเรียนกวน  และท๊อฟฟี่ทุเรียน เป็นต้น
       
       ในการเลือกซื้อทุเรียน บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคมักประสบปัญหาทุเรียน เนื้อแฉะ จืดชืด เนื้อฟ่าม หรือเกิดอาการไม่สุก  แกะเปลือกยากมากและอีกหลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อซื้อทุเรียนมารับประทาน สาเหตุเป็นเพราะว่าปัจจุบันเกษตรกรบางส่วนมีการตัดทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย กันมาก จำหน่ายได้ราคาดีกว่า จำหน่ายได้รวดเร็ว เพราะเป็นทุเรียนต้นฤดู  ทำให้ผู้บริโภคได้ทุเรียนที่คุณภาพไม่ดี  ดังนั้นเพื่อให้ ผู้บริโภคได้ทุเรียนดีมารับประทานอย่างถูกใจ

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

5 วิธีทำความสะอาดผ้าม่าน

ผ้าม่าน
       

ผ้าม่านนั้นเป็นของตกแต่งที่มีอยู่แทบทุกบ้าน เพราะนอกจากจะช่วยปรับแสงแดดที่ส่องเข้ามาให้สมดุลแล้ว ยังเป็นของแต่งห้องที่ทำให้บรรยากาศในห้องดูอบอุ่นผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย จึงถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในบ้านของใครหลาย ๆ คน

          ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผู้คนก็มักจะละเลยที่จะทำความสะอาดผ้าม่านกันเสมอ ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่ได้รับสิ่งสกปรกจากภายนอกโดยตรง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงได้นำเคล็ดลับในการทำความสะอาดผ้าม่านมาฝากกัน เพื่อให้คุณได้ลองไปใช้ดูแลผ้าม่านของคุณดู ลองไปอ่านกันเลยค่ะ

 1. เริ่มจากส่วนบนก่อน

          ควรทำความสะอาดด้วยการปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นไล่จากส่วนบนสุดของผ้าม่านก่อน เพราะหากคุณเริ่มทำจากด้านล่าง พอปัดฝุ่นด้านบน สิ่งสกปรกก็จะร่วงลงไปเกาะชายผ้าม่านให้สกปรกอีกครั้งอยู่ดี ดังนั้นจึงต้องปัดฝุ่นจากด้านบนก่อน เพื่อให้ไม่ต้องกลับมาปัดฝุ่นซ้ำอีกรอบ นอกจากนี้ ควรเน้นในส่วนรอยจีบรอยพับของผ้าม่านให้ดี เพราะจะมีฝุ่นเกาะหนาเป็นพิเศษเสมอ

 2. ระวังในการใช้ผ้าชุบน้ำ

          ถ้าจะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ก็ต้องดูดฝุ่นให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้น นอกจากการเช็ดจะไม่ช่วยให้ผ้าม่านสะอาดขึ้นแล้ว ยังเป็นการะละเลงฝุ่นให้รอยเปื้อนติดไปทั่วผ้าม่านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากผ้าม่านของคุณมีสีอ่อน ควรเลี่ยงการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด เพราะถ้าเกิดรอยเป็นด่างเป็นดวงหลังเช็ดแล้วจะเห็นชัด ทำให้ผ้าม่านดูไม่น่ามอง

 3. เลือกวิธีทำความสะอาดโดยดูจากเนื้อผ้า

          หากผ้าม่านของคุณมีน้ำหนักเบาจำพวกที่ทำจากผ้าฝ้าย เพียงแค่นำมาสะบัดฝุ่นออก หรือดูดฝุ่นเป็นประจำ ประมาณอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว ในขณะเดียวกัน หากผ้าม่านของคุณทำจากผ้าเนื้อหนา ควรส่งร้านซักแห้งที่ไว้ใจได้ให้เป็นคนจัดการจะดีกว่า เพราะผ้าม่านชนิดนี้ต้องใช้การดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม หากไม่สะดวก คุณอาจใช้เตารีดไอน้ำแนวตั้งรีดหลังจากดูดฝุ่นแทนก็ได้

 4. ตะขอเกี่ยวผ้าม่านก็สำคัญ

          ทำความสะอาดผ้าม่านเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดตะขอเกี่ยวผ้าม่านด้วย เพราะถ้าหากผ้าม่านที่สะอาดแล้ว มาเจอกับตะขอเกี่ยวที่สกปรก ก็จะทำใหผ้าม่านสกปรกอยู่ดี ทั้งนี้ วิธีความสะอาดตะขอเกี่ยวนั้นก็ง่ายแสนง่าย แค่นำไปลวกในน้ำผสมน้ำส้มสายชู ก็จะทำให้ตะขอดูสะอาดแวววาวเหมือนใหม่ได้แล้ว

 5. ใส่กลิ่นหอมให้ผ้าม่าน

          ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรถ้าคุณจะลองฉีดสเปรย์กลิ่นหอม ๆ ที่คุณชอบไว้ที่ผ้าม่าน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและบรรยากาศดี ๆ ให้กับห้องของคุณ อย่างไรก็ดี ควรเลือกกลิ่นอ่อน ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีแรง ๆ เพราะเสปรย์บางตัวอาจมีฤทธิ์รุนแรงจนทำให้ผ้าม่านสีเพี้ยนได้

          จำไว้ว่าควรทำความสะอาดผ้าม่านของคุณเป็นประจำ ผ้าม่านจะได้ดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ แถมยังช่วยให้ทุกกคนในบ้านมีสุขภาพที่ดี ไม่ต้องทนอยู่กับสิ่งสกปรกอีกด้วย


ข้อมูลจาก http://home.kapook.com/view43193.html

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลักการเลือกผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

ผ้าม่าน


ผ้าม่านเป็นของแต่งบ้านซึ่งเจ้าของบ้านมักจัดอยู่ในลิสต์ท้ายๆ ของรายการ ทั้งที่มีความจำเป็นพอๆ กับเรื่องเฟอร์นิเจอร์เลย นอกจากจะช่วยกรองแสงแดดแล้ว ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่ขึ้นด้วยปัญหาสำคัญที่ทำให้เจ้าของบ้านหลายท่านคิดไม่ตกก็คือตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกผ้าม่านแบบไหนให้เหมาะกับห้องต่างๆ ในบ้าน วันนี้ “บ้านและสวนแฟร์เว็บไซต์” จึงมีไอเดียเลือกใช้ผ้าม่านให้สวยและถูกที่ถูกทางมาฝากกันค่ะ

             การเลือกรูปแบบและชนิดของผ้าม่านเพื่อใช้ในห้องต่างๆ ไม่มีกฎตายตัว แต่ควรดูองค์ประกอบอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย โดยเลือกชนิดของผ้าม่านที่เหมาะสมกับขนาดของบานหน้าต่างและความสูงของห้อง เช่น ในห้องเพดานเตี้ยและมีหน้าต่างบานเล็กก็ควรเลือกใช้มู่ลี่แทนผ้าม่านจีบลอนใหญ่ๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้ห้องดูเตี้ยและน่าอึดอัด

ห้องนอน
             เหมาะจะใช้ผ้าม่านจีบ เพราะความนุ่มนวลของผ้าจะช่วยเสริมให้บรรยากาศในห้องนอน ทั้งยังช่วยบังแสงลอดแยงตาได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเช้า ไม่แนะนำให้แบ่งผ้าม่านจีบเป็นผืนเล็กๆ อย่างมู่ลี่หรือผ้าม่านพับ เพราะแสงอาจลอดผ่านมารบกวนสายตาได้
ครัว
             ถือเป็นส่วนที่เลอะเทอะง่ายมากที่สุดในบ้านทางที่ดีควรเลี่ยงการติดผ้าม่านจะดีกวาหรือถ้าอยากได้จริงๆ ควรเลือกผ้าม่านที่ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น และเปิดให้แสงเข้าได้ง่าย

ห้องนั่งเล่น
             สามารถเลือกใช้ผ้าม่านได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านจีบ ผ้าม่านพับ หรือมู่ลี่ไม้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งห้อง ขนาดหน้าต่าง รวมถึงการใช้งาน เช่น หน้าต่างบานใหญ่และกว้าง เปิดบ่อยไม่ควรใช้มู่ลี่ไม้ เพราะน้ำหนักค่อนข้างมาก การดึงเก็บขึ้นบ่อยๆ อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ง่าย
ห้องน้ำ
             ไม่ควรใช้ผ้าม่านกับส่วนเปียกอย่างส่วนอาบน้ำฝักบัว เพราะความชื้นจะทำให้ผ้าขึ้นราได้ง่าย หากจะใช้ควรเป็นม่านพลาสติก สำหรับส่วนแห้งอย่างโถสุขภัณฑ์หรืออ่างอาบน้ำ มู่ลี่น่าจะเหมาะสมที่สุด ถ้าอยากได้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติก็เลือกใช้มู่ลี่ไม้ หากบ้านแต่งในสไตล์โมเดิร์นก็ใช้มู่ลี่อะลูมิเนียม และควรติดมู่ลี่เหนือขอบอ่างอาบน้ำ เพื่อความเป็นส่วนตัวและน้ำจะได้ไม่กระเซ็นไปโดน

ส่วนทำงานหรือพื้นที่แคบ
            อาจใช้ผ้าม่านปรับแสงแนวตั้งหรือผ้าม่านม้วนที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ ผ้าม่านทั้งสองชนิดนี้ช่วยกรองแสงจ้าๆ จากภายนอกได้ดี เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาอย่างเพียงพอกับการทำงานชนิดของผ้าม่าน

ชนิดของผ้าม่าน
A. ผ้าม่านจีบ ผ้าม่านที่มีลักษณะจีบเป็นลอนๆส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเป็นผ้าม่านสองชั้น คือ ผ้าม่านโปร่งและผ้าม่านทึบ ผ้าม่านชนิดนี้เหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และจำเป็นต้องมีรางด้านบนแต่จะเลือกโชว์รางหรือซ่อนรางก็แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของบ้านจึงควรเผื่อพื้นที่เหนือขอบหน้าต่างอย่างน้อย20 เซนติเมตร

B. ผ้าม่านพับ ผ้าม่านที่ใช้รอกในการดึงผ้าจากด้านล่างขึ้นด้านบนโดยพับทบไปมา เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กในแนวตั้งหรือหน้าต่างด้านที่แสงสว่างไม่ส่องเข้ามาเต็มๆ เช่นด้านทิศเหนือ

C. ม่านม้วน ส่วนใหญ่มักทำจากผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าก็จะมีการเคลือบสารป้องกันแสงแดดและรังสียูวีใช้ระบบรอกหรือมอเตอร์ในการเปิด ราคาค่อนข้างสูงแต่ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยและใช้ได้กับหน้าต่างบานเล็กไปจนถึงบานใหญ่มากๆ

D. มู่ลี่ หลักๆ ที่นิยมใช้มี 2 ชนิด คือ มู่ลี่ไม้และมู่ลี่อะลูมิเนียมทำสีลักษณะเหมือนบานเกล็ดแนวนอน ขนาดของใบมู่ลี่มีให้เลือกทั้งเล็กและใหญ่เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กหรือหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ

E. ผ้าม่านปรับแสง เป็นมู่ลี่แนวตั้ง สามารถหมุนปรับได้ 180 องศาใบมู่ลี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ส่วนใหญ่มักทำจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งช่วยกรองแสงแดดได้ดี เช่นพอลิเอสเตอร์ ไฟเบอร์-กลาส หรืออะลูมิเนียมเหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และอยู่ในทิศทางที่แสงส่องเข้าเต็มๆ

ข้อมูลจาก http://www.baanlaesuanfair.com/Article.aspx?ArticleID=15#.Ugx5mdI9OYg

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีติดตั้งผ้าม่านด้วยตัวเอง




จะใช้ไม้ที่ตากผ้าก็ได้ ถ้าจะเอาสวยหน่อยก์ซื้อรางม่าน จากนั้นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีคือสกรู และขารางม่าน
1) วัดความยาวหน้าต่าง เพื่อกำหนดความยาวรางม่าน และก์ผ้าม่านที่ต้องใช้


2) หลังจากซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ครบตามขนาดความกว้างและจำนวนหน้าต่างได้แล้วก็เริ่มงานได้เลย สำรวจดูผนังว่ารับน้ำหนักไหวแค่ไหน ถ้ากลัวไม่ไหวก์ต้องใช้พุก แล้วใช้สกรูเจาะเพื่อใส่ตัวขารับรางม่าน เจาะสองข้างเสร็จ ขันสกูรใส่พุกใส่น้อต เอาผ้าม่านใส่ขารางแล้วใส่เข้าตัววางขาราง เสร็จ
หลังจากนี้ คุณควรที่จะดูแลความสะอาดผ้าม่านด้วย โดยการการซักผ้าม่านควรทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง จะสามารถยืดอายุของผ้าม่านได้ ส่วนผ้าม่านที่โดนแสงแดดเป็นประจำแนะนำว่าควรซักอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง นั้นเพราะผ้าม่านที่โดนแดดแรงเป็นประจำเนื้อผ้าจะกรอบและขาดง่ายกว่าผ้าม่านที่ไม่ค่อยโดนแดด


วิธีการซักผ้าม่านด้วยตัวเองง่ายๆ เริ่มจาก
1. ถอดผ้าม่านจากรางม่าน (ม่านบางชนิด อาจมีวิธีการถอดควรปรึกษาช่าง) ควรจำด้วยว่าชิ้นไหนเป็นของด้านไหน สิ่งสำคัญควรถอดแค่พอซักไหว เพราะผ้าม่านนั้นค่อนข้างชิ้นใหญ่มีน้ำหนัก ถ้าซักครั้งละหลายชุดอาจจะหนักเกินไป เนื่องจากต้องใช้เวลาและแรงกายพอสมควร ผ้าม่านที่ปลดออกมา นำมาถอดตะขอ โซ่ถ่วงหรืออุปกรณ์ที่ติดมากับตัวผ้าม่าน โซ่ถ่วงที่ใช้ถ่วงม่านนั้นปลายสองข้างจะเย็บติดกับผ้าม่าน ให้เราใช้ใบคัตเตอร์หรือกรรไกรเล็กๆค่อยๆตัดเส้นด้ายตรงส่วนปลายล่างสุด ทั้งซ้าย-ขวาโดยค่อยๆเลาะออกระวังอย่าให้โดนผ้า ให้ตัดเส้นด้ายระยะประมาณ 1 ซม.ผ้าที่คล้องหัวโซ่จะหลุดออก และทำอย่างเดียวกันกับอีกด้าน ควรทำเครื่องหมายไว้ว่าโซ่ชิ้นนี้เป็นของผ้าม่านชิ้นนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาตอนนำกลับมาใส่ภายหลัง


2. ผ้าม่านที่ถอดอุปกรณ์ออกหมดแล้ว นำไปซักน้ำเปล่าในภาชนะที่เตรียมไว้อย่างน้อย 2 น้ำ เพื่อให้ฝุ่นที่ยังไม่ฝังแน่นออกไปก่อน น้ำแรกจะเห็นว่าน้ำนั้นดำมาก และต่อมาทำตามขั้นตอนเดียวกันด้วยน้ำที่สอง ความดำของน้ำที่เกิดจากฝุ่นก็จะลดลง กรณีผ้าม่านดำมากหรือสกปรกมากต้องแช่ไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น โดยใส่ผงซักฟอกทั่วไป ไม่ควรใช้สารฟอกขาวเพราะจะทำให้ผ้าเปื่อย พอได้เวลาแล้วล้างผงซักฟอกออกให้หมด


3. นำเข้าเครื่องซักผ้า ควรตั้งโปรแกรมซักผ้าหนา และตั้งให้เครื่องล้างน้ำ 2 ครั้ง (ไม่ควรซักน้ำร้อน เพราะอาจทำผ้าม่านบางชนิดเสียหายได้) ถ้าผ้าม่านชิ้นใหญ่ให้ใส่ผ้าขนหนู 2-3 ผืนที่ไม่ใช้แล้ว (ผ้าขนหนูจะช่วยดูดสิ่งสกปรกจากผ้าม่าน ปรับความสมดุลของเครื่องซักผ้าและยังช่วยรักษาผ้าม่านไม่ให้เกิดความเสียหาย สามารถนำกลับมาใช้ได้ตลอด) ใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องของเครื่องซักผ้า ขณะเครื่องเริ่มทำงานให้ใส่น้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถ้วยต่อผ้าม่านประมาณ 7-9 กก. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสกปรกของผ้าม่าน ในกรณีผ้าม่านเป็นคราบเชื้อรา หรือรอยคราบน้ำจากละอองฝน ให้ใส่เกลือลงไปด้วยประมาณครึ่งถ้วย จะช่วยขจัดคราบเพิ่มขึ้น สำหรับคราบที่ฝังแน่นที่สะสมเป็นเวลานาน อาจต้องใช้สเปรย์หรือน้ำยาจัดคราบช่วยอีกทางหนึ่ง


4. หลังจากเครื่องปั่นหมาดแล้วให้รีบนำออกจากเครื่องทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ นำมาใส่ตะขอม่านแต่ยังไม่ต้องใส่โซ่ถ่วง รีบนำไปแขวนที่รางม่านเดิมที่ถอดมา จัดจีบม่านให้เข้าที่ตามเดิมเหมือนก่อนถอดออก อย่าลืมทำความสะอาดรางและบริเวณที่แขวนผ้าม่านด้วยระหว่างรอเวลาเครื่องซักผ้าทำงาน การแขวนม่านทันทีหลังซักเสร็จจะทำให้ผ้าม่านไม่ยับ ผ้าบางชนิดไม่จำเป็นต้องรีดเลยก็เป็นได้ รูดปิดม่านให้ทุกส่วนสัมผัสอากาศ เปิดประดูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่นานผ้าม่านก็จะแห้ง และกลับมาใหม่เหมือนเดิม


5. หลังจากผ้าแห้งแล้ว กรณีผ้าบางตัวอาจมีรอยยับ ให้ใช้เตารีดไอน้ำลักษณะตั้งพื้นและมีท่อพร้อมด้ามจับ รีดเก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง นำโซ่ถ่วงมาใส่เข้าที่จุดเดิม และใช้เข็มสอยปิดหัวปิดท้าย ความจริงผ้าม่านไม่จำเป็นต้องใส่โซ่ถ่วงก็ได้ ถ้าผ้านั้นมีน้ำหนักพอ ให้สังเกตดูว่าในขณะไม่ใส่โซ่ผ้าม่านเป็นอย่างไร ถ้าใส่จะดีกว่าเดิมหรือไม่ โซ่ไม่มีผลต่อผ้าม่านมากนัก ลองเปรียบเทียบดูก่อน แค่นี้ก็เป็นการเสร็จสิ้นการซักผ้าม่านเรียบร้อย

ข้อมูลจาก http://www.tamlaydee.com/forum/index.php?topic=1463.0












วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สบู่นมแพะ



สบู่นมแพะ


ประวัติความเป็นมาสบู่นมแพะ
การเลี้ยงแพะนมของกลุ่มในบางช่วงเวลา ปริมาณน้ำนมที่ได้ในแต่ละวันมีเป็นจำนวนมาก เกินความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มจึงมีแนวคิดในการแปรรูปน้ำนมแพะเป็นการเพิ่มมูลค่า โดยทำเป็นสบู่นมแพะออกจำหน่าย ต่อมาได้คิดค้นนำสมุนไพรชนิดต่างๆที่มีคุณสมบัติรักษาผิวพรรณเข้ามาเป็นส่วนผสม เช่น ขมิ้น เปลือกมังคุด เมล็ดกาแฟสด มะขาม จึงดำเนินการผลิตสินค้าสบู่นมแพะที่มีส่วนผสมสมุนไพรดังที่กล่าวออกจำหน่าย
กลุ่มได้มีการวิจัยร่วมกับภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์(เคมี) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ในเรื่องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของตัวผลิตภัณฑ์ เช่น โลชั่นนมแพะ ครีมโยเกิร์ตนมแพะ สบู่เหลวนมแพะ แชมพูนมแพะ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด

วัตถุดิบและส่วนประกอบในการทำสบู่
1. น้ำนมแพะ
2. กลิเซอรีน
3. สมุนไพร (ขมิ้นชัน เปลือกมังคุด มะขาม เมล็ดกาแฟสด)
4. น้ำมันหอมระเหย
5. พิมพ์สำหรับกดรูปแบบของสบู่
6. ถาดสำหรับเทส่วนผสมของสบู่ (ทิ้งไว้ให้เย็นเริ่มแข็งตัวก่อนกดพิมพ์)
7. ช้อนตวง
8. เครื่องชั่ง
9. ปรอทวัดอุณหภูมิ
10. แอลกอฮอร์
11. เตาแก๊ส
12. กล่องบรรจุภัณฑ์
13. พลาสติก

ขั้นตอนการผลิตสบู่
นำกลีเซอรีน หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่หม้อตั้งไฟ จนกลีเซอรีนละลาย เติมน้ำนมแพะที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์แล้ว เติมสมุนไพรแต่ละชนิดในแต่ละครั้ง(แต่ละประเภทสมุนไพร) ตั้งไฟต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมเข้ากันดี ยกลงจากไฟตั้งพักไว้จนอุณหภูมิ 70- 75 องศาเซลเซียส เติมน้ำมันหอมระเหย เทใส่ถาดพักไว้ เมื่อเนื้อสบู่เริ่มแข็งตัว จนสามารถนำพิมพ์มากดได้ กดรูปแบบที่ต้องการตามแบบพิมพ์ เมื่อสบู่แข็งตัวดีแล้วนำมาห่อด้วยพลาสติกชั้นใน บรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ นำออกจำหน่าย


เทคนิคและเคล็ดลับในการผลิตสบู่
- นำน้ำนมแพะผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์
- อัตราส่วนของสบู่ ชั่งตวงตามมาตรฐานของการผลิตสบู่
- มีการควบคุมอุณหภูมิของสบู่
- ขั้นตอนการห่อพลาสติกใส จะเช็ดสบู่จนแห้ง เนื่องจากสบู่มีส่วนผสมกลีเซอรีน ซึ่งสามารถดูดซับความชื้นได้ง่าย


ข้อมูลจาก http://products.kampong.biz/j/index.php/products-story/--herbal-/95-goat-milk-soap

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เนื้อเพลง สบู่ - แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข




วันนั้นเธอทำเกินเหตุไปหรือเปล่า

เก็บกระเป๋าและเดินจากไปไม่เหลือใยดี
ทิ้งความหลังและตัวฉันเอาไว้ในห้องๆ นี้
ฉันอยู่กับมันทุกวันทุกวินาที

รู้ไหมแม้มันจะผ่านมานานเท่าไหร่
แต่ฉันก็ยังหายใจด้วยความหวังน้อยนิดที่มี
ว่าคงมีสักครั้งเธอคิดถึงห้องๆ นี้
จะได้เปิดประตูต้อนรับเธออีกสีกที

ผ้าผืนนี้ฉันยังเก็บให้เธอไว้เช็ดหน้า
สบู่ก้อนนั้นแม้จะแตะต้องมันยังไม่กล้า
รูปคู่ใบนี้ขอโทษฉันทำเปียกไปแล้วด้วยน้ำตา
กลับมายืนคู่กันอีกทีได้ไหม

กล่องใบนั้นฉันยังวางใกล้ตัวไม่ห่าง
กระดาษเธอเขียน ฉันยังแขวนเอาไว้ข้างหน้าต่าง
สิ่งที่เธอลืมไว้ มันให้อภัยเจ้าของแล้วทุกอย่าง
ตัวฉันก็ไม่ต่างตอนนี้ขอแค่เธอกลับมา

ผ้าผืนนี้ฉันยังเก็บให้เธอไว้เช็ดหน้า
สบู่ก้อนนั้นแม้จะแตะต้องมันยังไม่กล้า
รูปคู่ใบนี้ขอโทษฉันทำเปียกไปแล้วด้วยน้ำตา
กลับมายืนคู่กันอีกทีได้ไหม

กล่องใบนั้นฉันยังวางใกล้ตัวไม่ห่าง
กระดาษเธอเขียนฉันยังแขวนเอาไว้ข้างหน้าต่าง
สิ่งที่เธอลืมไว้มันให้อภัยเจ้าของแล้วทุกอย่าง
ตัวฉันก็ไม่ต่างตอนนี้ขอแค่เธอ

กลับมาได้ไหม กลับมาได้แล้ว
ยังมีของตรงนี้ตรงนั้นที่วางรอเธอเรียงไว้เป็นคู่
คนๆ นี้เขายังเป็นคนเดิม ที่แห่งนี้ก็ยังเป็นที่เดิม
เหลือแค่เธอที่ไม่อยู่

ผ้าผืนนี้ฉันยังเก็บให้เธอไว้เช็ดหน้า
สบู่ก้อนนั้นแม้จะแตะต้องมันยังไม่กล้า
รูปคู่ใบนี้ขอโทษฉันทำเปียกไปแล้วด้วยน้ำตา
กลับมายืนคู่กันอีกได้ไหม

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการทำสบู่สมุนไพร

สบู่

              หากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการทำสบู่สมุนไพรที่คุณได้เลือกวิธีที่ง่ายและความคิดสร้างสรรค์ยังเพิ่มกลิ่นหอมและความงามไปยังรายการสามัญอย่างอื่น การทำสบู่ของคุณเองสมุนไพรให้คุณเลือกของการเพิ่มสมุนไพรที่คุณชื่นชอบน้ำมันหรือส่วนผสมอื่น ๆ เช่นนมหรือข้าวโอ๊ต สบู่สมุนไพรธรรมชาติซึ่งมักจะเป็นที่ดีสำหรับผิวของคุณ การสร้างสบู่ของคุณเองสมุนไพรยังช่วยให้คุณมีตัวเลือกในการเพิ่มส่วนผสมที่จะช่วยเพิ่มความช่วยเหลือและชมเชยประเภทผิวของคุณโดยเฉพาะ

1. ขูดสบู่ก้อนให้เป็นฝอยเล็กๆ ใช้ที่ขูดมะละกอหรือชีส ขูดก็ได้หรือจะใช้มีดหั่นก็ได้ตามสะดวก
2. ใส่น้ำสะอาดหรือนมสดลงไป ปริมาณแค่พอละลายสบู่ได้
3. ใส่สมุนไพรลงไปสัก 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือมากกว่านี้ได้ตามชอบ ตามรูปตัวอย่าง อันหนึ่งเราใส่ขมิ้น อีกอันใส่น้ำมะขามเปียก
4. คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ให้เหลวประมาณครีมก็ใช้ได้
5. เอาส่วนผสมใส่หม้อหรือกระทะ ตั้งไฟอ่อนๆกวนจนส่วนผสมสบู่เหลวเป็นน้ำและทุกอย่างเข้ากันดี ปิดไฟได้
6. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ตามชอบ จะใช้น้ำมันมะกอกทาพิมพ์นิดหน่อยก็ได้จะได้แคะสบู่ออกง่าย
7. พักให้สบู่แข็งตัว แคะออกจากพิมพ์ได้
8. จะได้สบู่ตามที่ต้องการ

***หมายเหตุ*** สบู่ที่ผสมกากกาแฟจะแข็งตัวเร็วมาก ดังนั้นตอนทำส่วนผสมจึงต้องทำออกเหลวมากหน่อย


ที่มาของข้อมูล :www.wikihow.com/Make-Herbal-Soap